

🚨 โพสต์นี้มีคำตอบ พร้อมวิธีรับมือ!
หลายคนอาจเคยเห็นคลิปวิดีโอที่คนดัง พูดในสิ่งที่ไม่น่าจะพูด หรือใบหน้าถูกสลับไปมาอย่างแนบเนียน นั่นแหละครับคือสิ่งที่เรียกว่า “Deepfake”
🔍 Deepfake คืออะไร?
Deepfake ย่อมาจาก “Deep Learning + Fake” เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ AI วิเคราะห์ใบหน้า เสียง ท่าทาง และสร้างภาพหรือวิดีโอปลอมที่ดูเหมือนจริงมาก!
📌 ตัวอย่างภัยไซเบอร์จาก Deepfake:
ปลอมเสียงผู้บริหารโทรหาพนักงานให้โอนเงิน (Business Email/Voice Compromise)
ปลอมหน้าพนักงานฝ่ายการเงินส่งวิดีโอสั่งจ่ายเงิน
สร้างคลิปปลอมเพื่อแบล็กเมล์หรือใส่ร้ายบุคคล
หลอกประชาชนผ่านคลิปปลอมของนักการเมืองหรือคนมีชื่อเสียง
⚠️ ความน่ากลัวคือ…
คนทั่วไปแทบแยกไม่ออกว่า “จริงหรือปลอม” ทำให้ Deepfake กลายเป็นเครื่องมือใหม่ของอาชญากรไซเบอร์ที่ใช้หลอกลวงได้อย่างแนบเนียน!
🛡️ เราจะป้องกันได้อย่างไร?
✅ อย่าเชื่อทุกคลิปหรือเสียงที่เห็น/ได้ยิน
✅ ตรวจสอบแหล่งที่มาให้แน่ชัด (เว็บไซต์ / ช่องทางทางการ)
✅ องค์กรควรมีระบบยืนยันตัวตนแบบหลายชั้นก่อนทำธุรกรรม
✅ ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ Deepfake ที่มีในตลาด เช่น Truepic, Microsoft Video Authenticator
✅ ให้ทีมไอทีหรือผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบเมื่อสงสัย
👨💻 ที่ FiXITDD เราให้บริการด้าน Cybersecurity แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบระบบ ความเสี่ยง หรือฝึกอบรมพนักงานให้รู้ทันภัยรูปแบบใหม่ อย่าง Deepfake
🎯 อย่าปล่อยให้องค์กรของคุณตกเป็นเหยื่อของข้อมูลปลอม!