
🧠 ฟีเจอร์ AI Mode + Agentic AI ใน Google Search คืออะไร?
- Gemini 2.5 Pro + Deep Search
Google นำโมเดล Gemini 2.5 Pro มากำลังขับเคลื่อน AI Mode
Deep Search ช่วยค้นเชิงลึก เจาะหลายแหล่ง พร้อมจัดรายงานสรุปที่มีการอ้างอิงแหล่งข้อมูล - Agentic AI: โทรหาธุรกิจแทนคุณ
ฟีเจอร์ “AI-powered calling” ให้ Search โทรสอบถามร้าน (เช่น ราคา-วันว่าง) แทนผู้ใช้ แล้วส่งผลสรุปเรียบร้อย
ผู้ใช้เลือก “Have AI check pricing” และระบบจะโทรแบบระบุว่าเป็น AI
🔎 Agentic AI ทำงานยังไง?
Agentic AI คือ AI ที่มีความ “มีเอเยนซี” – ตัดสินใจ, แบ่งงานเป็นขั้นตอน, ลงมือทำ, เรียนรู้ และปรับปรุงตัวเองโดยไม่ต้องสั่งทีละขั้น
ตัวอย่างจาก Google:
ฟังก์ชั่นโทรหาธุรกิจ
Deep Search ที่ทำการค้นหลายขั้นตอนเอง
✅ ทำอะไรได้บ้าง?
ฟีเจอร์ การใช้งาน
ค้นเชิงลึก ป้อนคำถามซับซ้อน เช่น คำถามเชิงการเงิน/โค้ด ระบบจะค้นหลายเว็บและสรุปให้พร้อมอ้างอิง
โทรสอบถามธุรกิจแทนผู้ใช้ เช่น โทรหาสปา, ร้านกรูมมิ่ง, ร้านทำความสะอาด หาข้อมูลราคาหรือวันว่างพร้อมรายงานสรุป
ช่วยในการช็อปปิ้ง-เปรียบเทียบ AI Mode ใช้ข้อมูลรูปภาพจาก Shopping Graph ช่วยดูสินค้า
🎯 ใครใช้ประโยชน์จาก Agentic AI ได้?
ผู้สมัคร Google AI Pro หรือ Ultra
คนที่ต้องการหาข้อมูลลึกโดยไม่อยากค้นเอง
ใครก็ตามที่เบื่อการติดต่อร้านค้าด้วยตนเอง
นักช็อปที่ต้องการข้อมูลสินค้าเปรียบเทียบครบถ้วน
🛠 วิธีใช้งาน
- เปิด AI Mode ใน Google Search (U.S. + ก่อนอื่นสมัคร Google AI Pro/Ultra หรือใช้งานผ่าน Search Labs)
- เลือกรูปแบบโมเดล: default หรือ Gemini 2.5 Pro (สำหรับงานซับซ้อน)
- พิมพ์คำถาม เช่น “pet groomers near me” แล้วเลือก “Have AI check pricing” เพื่อให้ AI โทรสอบถามร้าน
🔐 สรุป
Google กำลังเปลี่ยน Search ให้เป็นผู้ช่วยที่ “คิดเอง ทำงานเอง” ได้ – ไม่ใช่แค่ตอบ แต่ ลงมือทำ เช่น โทรสอบถามและค้นเชิงลึกแทนคุณ ซึ่งเป็นการนำแนวคิด Agentic AI มาใช้จริงบนแพลตฟอร์ม Search